แนะนำสำหรับคุณ
แนะนำสำหรับคุณ
แนะนำสำหรับคุณ
แนะนำสำหรับคุณ
แนะนำสำหรับคุณ
Tooltip
ทำไมควรเลิกใช้ VLOOKUP แล้วหันมาใช้ XLOOKUP แทน
ทำไมควรเลิกใช้ VLOOKUP แล้วหันมาใช้ XLOOKUP แทน

Tech Ninja Team
4 SEP 2025
" ขนาด Excel ยังบอกให้ใช้ แล้วทำไมเราถึงจะไม่ใช้ "
เวลาเราทำงานกับ Excel หรือ Google Sheets หนึ่งในงานที่เจอบ่อยที่สุดคือ “การค้นหาข้อมูลจากตาราง” ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาชื่อพนักงานจากรหัสพนักงาน, การหาค่าจากข้อมูลสินค้า หรือการทำรายงานสรุปต่าง ๆ เพื่อนำเสนอรายเดือน รายสัปดาห์
และแน่นอนว่าสูตรที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีหรือหนีไม่พ้นก็คือ VLOOKUP ซึ่งเป็นหนึ่งในสูตรที่นิยมใช้กัน แต่พอใช้ไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอปัญหาจุกจิกจนหลายคนเริ่มหงุดหงิด จนกระทั่ง Microsoft ปล่อย XLOOKUP ออกมา ซึ่งบอกเลยว่าเหมือนอัปเกรดชีวิตการทำงานแบบก้าวกระโดด 🚀
แต่ก่อนจะไปดูว่าการมาของ XLOOKUP มันดียังไง เราลองมาทำความเข้าใจก่อนว่า VLOOKUP ทำงานยังไง? แล้วปัญหาอะไรที่ทำให้เราควรเลิกใช้งานฟังก์ชันหรือสูตรนี้กันนะ?
โครงสร้างและการใช้งาน VLOOKUP
การใช้งานฟังก์ชันหรือสูตร VLOOKUP จะมีโครงสร้างประมาณนี้
=VLOOKUP(ค่าที่ต้องการค้นหา, ตารางข้อมูล, หมายเลขคอลัมน์, [การค้นหาแบบตรงหรือใกล้เคียง])
สมมติว่าเรามีตัวอย่างตารางข้อมูลแบบนี้
A | B |
รหัสพนักงาน | ชื่อพนักงาน |
---|---|
TNJ0001 | นายสมชาย สายเสมอ |
TNJ0002 | นางสมศรี มีสมร |
TNJ0003 | นายสมหมาย ปลายทาง |
ถ้าเราอยากค้นหาว่า "พนักงานที่มีรหัส TNJ0003 ชื่ออะไร"
เราก็จะสามารถเขียนสูตร VLOOKUP เพื่อค้นหาได้แบบนี้
=VLOOKUP("TNJ0003", A2:B4, 2, FALSE)
ผลลัพธ์ที่ได้ : นายสมหมาย ปลายทาง
มองผ่าน ๆ แบบนี้มันก็ดูใช้งานง่าย ไม่น่ามีปัญหาอะไรใช่มั้ยครับ แต่จริง ๆ มีข้อจำกัดเยอะมาก
ข้อจำกัดของ VLOOKUP
ค้นหาจากซ้ายไปขวาเท่านั้น → ถ้าคอลัมน์ผลลัพธ์(ชื่อพนักงาน) อยู่ด้านซ้ายของค่าที่ใช้ค้นหา(รหัสพนักงาน) ก็จะค้นหาไม่ได้
สูตรพังเวลาแทรกคอลัมน์ → เพราะใช้หมายเลขคอลัมน์อ้างอิง เวลาเราเพิ่มคอลัมน์แทรกเข้าไป รื้อใหม่ยกแผง
ดึงมาได้แค่ค่าตัวแรก → ถ้ามีข้อมูลซ้ำในตาราง ก็จะค้นหามาได้แค่ค่าแรกนับจากบนสุด
ถ้าหาค่าไม่เจอ Error → กรณีค้นหาข้อมูลไม่เจอก็จะแสดง #N/A ถ้าอยากให้แสดงข้อความอื่นต้องใช้ IFNA หรือ IFERROR เข้ามาช่วย
ประสิทธิภาพตกเมื่อข้อมูลเยอะ → เวลาทำงานกับตารางใหญ่ ๆ สูตรจะทำงานช้า และบางครั้งพาลทำให้ไฟล์หน่วงทั้งไฟล์เลย
และด้วยปัญหาจากข้อจำกัดเหล่านี้ Microsoft ก็เลยทำการเพิ่มฟังก์ชัน XLOOKUP เข้ามาใน Excel ให้เราได้ใช้งานแทน VLOOKUP นั่นเอง
" ขนาด Excel ยังบอกให้ใช้ แล้วทำไมเราถึงจะไม่ใช้ "
เวลาเราทำงานกับ Excel หรือ Google Sheets หนึ่งในงานที่เจอบ่อยที่สุดคือ “การค้นหาข้อมูลจากตาราง” ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาชื่อพนักงานจากรหัสพนักงาน, การหาค่าจากข้อมูลสินค้า หรือการทำรายงานสรุปต่าง ๆ เพื่อนำเสนอรายเดือน รายสัปดาห์
และแน่นอนว่าสูตรที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีหรือหนีไม่พ้นก็คือ VLOOKUP ซึ่งเป็นหนึ่งในสูตรที่นิยมใช้กัน แต่พอใช้ไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอปัญหาจุกจิกจนหลายคนเริ่มหงุดหงิด จนกระทั่ง Microsoft ปล่อย XLOOKUP ออกมา ซึ่งบอกเลยว่าเหมือนอัปเกรดชีวิตการทำงานแบบก้าวกระโดด 🚀
แต่ก่อนจะไปดูว่าการมาของ XLOOKUP มันดียังไง เราลองมาทำความเข้าใจก่อนว่า VLOOKUP ทำงานยังไง? แล้วปัญหาอะไรที่ทำให้เราควรเลิกใช้งานฟังก์ชันหรือสูตรนี้กันนะ?
โครงสร้างและการใช้งาน VLOOKUP
การใช้งานฟังก์ชันหรือสูตร VLOOKUP จะมีโครงสร้างประมาณนี้
=VLOOKUP(ค่าที่ต้องการค้นหา, ตารางข้อมูล, หมายเลขคอลัมน์, [การค้นหาแบบตรงหรือใกล้เคียง])
สมมติว่าเรามีตัวอย่างตารางข้อมูลแบบนี้
A | B |
รหัสพนักงาน | ชื่อพนักงาน |
---|---|
TNJ0001 | นายสมชาย สายเสมอ |
TNJ0002 | นางสมศรี มีสมร |
TNJ0003 | นายสมหมาย ปลายทาง |
ถ้าเราอยากค้นหาว่า "พนักงานที่มีรหัส TNJ0003 ชื่ออะไร"
เราก็จะสามารถเขียนสูตร VLOOKUP เพื่อค้นหาได้แบบนี้
=VLOOKUP("TNJ0003", A2:B4, 2, FALSE)
ผลลัพธ์ที่ได้ : นายสมหมาย ปลายทาง
มองผ่าน ๆ แบบนี้มันก็ดูใช้งานง่าย ไม่น่ามีปัญหาอะไรใช่มั้ยครับ แต่จริง ๆ มีข้อจำกัดเยอะมาก
ข้อจำกัดของ VLOOKUP
ค้นหาจากซ้ายไปขวาเท่านั้น → ถ้าคอลัมน์ผลลัพธ์(ชื่อพนักงาน) อยู่ด้านซ้ายของค่าที่ใช้ค้นหา(รหัสพนักงาน) ก็จะค้นหาไม่ได้
สูตรพังเวลาแทรกคอลัมน์ → เพราะใช้หมายเลขคอลัมน์อ้างอิง เวลาเราเพิ่มคอลัมน์แทรกเข้าไป รื้อใหม่ยกแผง
ดึงมาได้แค่ค่าตัวแรก → ถ้ามีข้อมูลซ้ำในตาราง ก็จะค้นหามาได้แค่ค่าแรกนับจากบนสุด
ถ้าหาค่าไม่เจอ Error → กรณีค้นหาข้อมูลไม่เจอก็จะแสดง #N/A ถ้าอยากให้แสดงข้อความอื่นต้องใช้ IFNA หรือ IFERROR เข้ามาช่วย
ประสิทธิภาพตกเมื่อข้อมูลเยอะ → เวลาทำงานกับตารางใหญ่ ๆ สูตรจะทำงานช้า และบางครั้งพาลทำให้ไฟล์หน่วงทั้งไฟล์เลย
และด้วยปัญหาจากข้อจำกัดเหล่านี้ Microsoft ก็เลยทำการเพิ่มฟังก์ชัน XLOOKUP เข้ามาใน Excel ให้เราได้ใช้งานแทน VLOOKUP นั่นเอง






Basic Excel for Business อยากเก่ง Excel ขึ้นทั้งองค์กร ติดต่อ Tech Ninja ได้เลย!
เริ่มปูพื้นฐานการใช้ Excel ให้กับทีม ลดขั้นตอนการทำงานองค์กรให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเครื่องมือและทักษะที่ตรงจุด
เริ่มปูพื้นฐานการใช้ Excel ให้กับทีม ลดขั้นตอนการทำงานองค์กรให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเครื่องมือและทักษะที่ตรงจุด
โครงสร้างและการใช้งาน XLOOKUP
การใช้งานฟังก์ชันหรือสูตร XLOOKUP จะมีโครงสร้างประมาณนี้
=XLOOKUP(ค่าที่ต้องการค้นหา, คอลัมน์ที่ค้นหา, คอลัมน์ผลลัพธ์, [ถ้าไม่พบ], [โหมดการเลือกข้อมูล], [โหมดการค้นหา])
ตัวโครงสร้างของฟังก์ชัน XLOOKUP จะแตกต่างไปจาก VLOOKUP ประมาณนึง แต่ยังใช้งานได้ง่ายพอ ๆ กันเลย ถ้าอธิบายตรงนี้ก็อาจจะงง ๆ นิดหน่อย เดี๋ยวไปดูตอนใช้งานเลยน่าจะเห็นภาพมากกว่า
สมมติว่าเรามีตัวอย่างตารางข้อมูลแบบเดิม
A | B |
รหัสพนักงาน | ชื่อพนักงาน |
---|---|
TNJ0001 | นายสมชาย สายเสมอ |
TNJ0002 | นางสมศรี มีสมร |
TNJ0003 | นายสมหมาย ปลายทาง |
ถ้าเราอยากค้นหาเหมือนเดิมคือ "พนักงานที่มีรหัส TNJ0003 ชื่ออะไร"
เราก็จะสามารถเขียนสูตร XLOOKUP เพื่อค้นหาได้แบบนี้
=XLOOKUP("TNJ0003", A2:A4, B2:B4)
ผลลัพธ์ที่ได้ : นายสมหมาย ปลายทาง
พอลองเขียนสูตรเพื่อค้นหาจริง ๆ เราก็จะเริ่มความแตกต่างระหว่าง XLOOKUP กับ VLOOKUP
ระบุช่วงข้อมูลที่ใช้ค้นหาเป็นแค่ช่วงคอลัมน์เดียว ไม่ต้องเลือกทั้งตาราง
ระบุช่วงข้อมูลที่ต้องการผลลัพธ์เป็นช่วงคอลัมน์เดียว แทนการระบุเลขลำดับ
ไม่ต้องใส่โหมดการค้นหา (แต่ยังสามารถใส่ได้)
แต่นี่ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำให้เราหันมาใช้งาน XLOOKUP แทน VLOOKUP
จุดที่ทำให้ XLOOKUP เหนือกว่า VLOOKUP
1. ค้นหาแบบย้อนกลับได้
สมมติเราเปลี่ยนโจทย์เป็น "อยากค้นหารหัสพนักงานของนายสมหมาย ปลายทาง" ถ้าเป็น VLOOKUP เราจะไม่สามารถค้นหาได้ แต่ถ้าเป็น XLOOKUP เราสามารถค้นหาได้ด้วยการเขียนสูตรแบบนี้
=XLOOKUP("นายสมหมาย ปลายทาง", B2:B4, A2:A4)
ผลลัพธ์ที่ได้ : TNJ0003
2. สูตรไม่พังเวลา เพิ่ม/ลด คอลัมน์
สมมติว่าเรามีการเพิ่มคอลัมน์ให้กลายเป็นแบบนี้
A | B | C |
รหัสพนักงาน | แผนกที่สังกัด | ชื่อพนักงาน |
---|---|---|
TNJ0001 | IT Support | นายสมชาย สายเสมอ |
TNJ0002 | HR | นางสมศรี มีสมร |
TNJ0003 | Business | นายสมหมาย ปลายทาง |
และสมมติว่าเราเคยเขียนสูตร VLOOKUP ไว้แบบนี้
=VLOOKUP("TNJ0003", A2:B4, 2, FALSE)
ผลลัพธ์ที่ได้ : Business
จะสังเกตว่าตามปกติผลลัพธ์ที่เราควรจะได้คือ "ชื่อพนักงาน" แต่หลังเราแทรกคอลัมน์เข้าไป ผลลัพธ์ที่ได้จะกลายเป็น "แผนกที่สังกัด" แทน ซึ่งแปลว่าสูตรจะไม่ Error แต่จะได้คำตอบที่ผิด และถ้าเราไม่ได้กลับมาตรวจสอบดูให้ดีก็จะไม่รู้เลยว่าการทำงานนั้นผิดพลาดไปแล้ว
แต่ถ้าเราเขียนสูตรด้วย XLOOKUP ไว้แบบนี้
=XLOOKUP("TNJ0003", A2:A4, B2:B4)
สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากเราทำการแทรกคอลัมน์เข้าไปนั่นก็คือ สูตรจะถูกแก้ไขให้แบบอัตโนมัติ กลายเป็นแบบนี้
=XLOOKUP("TNJ0003", A2:A4, C2:C4)
ทำให้สูตรการค้นหายังคงทำงานได้ถูกต้องและได้ผลลัพธ์เป็น "ชื่อพนักงาน" ตามเดิม
3. สามารถตั้งค่าข้อความกรณีที่ไม่เจอข้อมูลได้
สมมติว่าถ้าเราอยากตั้งค่าข้อความเมื่อค้นหาข้อมูลไม่เจอว่า "ไม่พบข้อมูล" เราสามารถเพิ่มเข้าไปใน XLOOKUP ได้แบบนี้
=XLOOKUP("TNJ0004", A2:A4, C2:C4, "ไม่พบข้อมูล")
ผลลัพธ์ที่ได้ : ไม่พบข้อมูล
4. เลือกลำดับการค้นหาได้ (เอาค่าแรกสุด/ค่าหลังสุด)
กรณีที่บางตารางมีการบันทึกข้อมูลบางอย่างซ้ำ ยกตัวอย่างเช่นตารางการบันทึกเวลาเข้า-ออกของพนักงานแบบนี้
A | B | C | D |
วันที่ | รหัสพนักงาน | เวลาเข้างาน | เวลาออกงาน |
---|---|---|---|
01-08-2025 | TNJ0001 | 08:57 | 18:02 |
01-08-2025 | TNJ0003 | 08:59 | 18:23 |
02-08-2025 | TNJ0003 | 08:50 | 18:00 |
02-08-2025 | TNJ0001 | 09:03 | 18:12 |
สมมติว่าถ้าเราอยากค้นหา "เวลาเข้างานล่าสุดของพนักงานรหัส TNJ0001"
ถ้าเป็น VLOOKUP จะไม่สามารถค้นหาได้ เพราะต้องดึงตัวแรกสุดเสมอ
แต่ถ้าเป็น XLOOKUP เราสามารถกำหนดได้แบบนี้
=XLOOKUP("TNJ0004", A2:A4, C2:C4, "ไม่พบข้อมูล", 0, -1)
ผลลัพธ์ที่ได้ : 09:03
โดยเลข 0 หมายถึงให้เอาตัวที่ตรงตามที่ค้นหาเป๊ะ ๆ ส่วนเลข -1 หมายถึงให้ค้นหาจาก หลังมาหน้า(last-to-first) นั่นเอง ซึ่งถ้าเราจะไม่เขียนเลข 0 เพราะมันเป็น Default อยู่แล้วก็สามารถเขียนสูตรแบบนี้แทนได้
=XLOOKUP("TNJ0004", A2:A4, C2:C4, "ไม่พบข้อมูล",, -1)
คำถามพิเศษ: แล้วถ้ามีค่าซ้ำมากกว่า 2 ตัว แล้วอยากได้ค่าตรงกลางล่ะ XLOOKUP สามารถค้นหาได้มั้ย?
คำตอบคือ ไม่ได้นะคร้าบ!! //เสียงคุณปัญญาชิงร้อยชิงล้าน
เพราะ XLOOKUP สามารถค้นหาได้แค่ตัวแรกหรือตัวสุดท้ายเท่านั้น แต่ถ้าจะเป็นกรณีหาค่าตรงกลางจะต้องใช้งานฟังก์ชันหรือสูตรอื่น ๆ แทน เช่น FILTER + INDEX
และทั้งหมดนี้ก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรเลิกใช้งาน VLOOKUP แล้วหันมาใช้งาน XLOOKUP แทนนั่นเอง เพราะทาง Microsoft เองก็ตั้งใจเพิ่มฟังก์ชันนี้มาเพื่อให้สามารถใช้งานได้ยืดหยุ่นมากขึ้น ถึงขนาดเขียนเอาไว้ในคำอธิบายของฟังก์ชัน VLOOKUP เลยว่า "ลองใช้ XLOOKUP ดูมั้ย มันเป็นเวอร์ชันปรับปรุงมาจาก VLOOKUP เลยนะ…"
การใช้งาน Excel ให้เก่ง ไม่ใช่แค่จำสูตรให้เยอะ แต่ต้องเข้าใจว่ากรณีแบบไหน ควรใช้สูตรอะไร
และถ้าใครอยากเก่ง Excel แบบเจาะลึกตั้งแต่สูตรพื้นฐานไปจนถึงทริคขั้นสูง?
Tech Ninja ก็มีหลักสูตรอัปสกิล Excel ตั้งแต่ Basic พื้นฐานไปจนถึง Advanced ขั้นสูงเลยน้า ✨
สนใจติดต่อได้ที่ Facebook: Tech Ninja
หรือโทร 02-096-2899 (ต่อ 0) ได้เลย
โครงสร้างและการใช้งาน XLOOKUP
การใช้งานฟังก์ชันหรือสูตร XLOOKUP จะมีโครงสร้างประมาณนี้
=XLOOKUP(ค่าที่ต้องการค้นหา, คอลัมน์ที่ค้นหา, คอลัมน์ผลลัพธ์, [ถ้าไม่พบ], [โหมดการเลือกข้อมูล], [โหมดการค้นหา])
ตัวโครงสร้างของฟังก์ชัน XLOOKUP จะแตกต่างไปจาก VLOOKUP ประมาณนึง แต่ยังใช้งานได้ง่ายพอ ๆ กันเลย ถ้าอธิบายตรงนี้ก็อาจจะงง ๆ นิดหน่อย เดี๋ยวไปดูตอนใช้งานเลยน่าจะเห็นภาพมากกว่า
สมมติว่าเรามีตัวอย่างตารางข้อมูลแบบเดิม
A | B |
รหัสพนักงาน | ชื่อพนักงาน |
---|---|
TNJ0001 | นายสมชาย สายเสมอ |
TNJ0002 | นางสมศรี มีสมร |
TNJ0003 | นายสมหมาย ปลายทาง |
ถ้าเราอยากค้นหาเหมือนเดิมคือ "พนักงานที่มีรหัส TNJ0003 ชื่ออะไร"
เราก็จะสามารถเขียนสูตร XLOOKUP เพื่อค้นหาได้แบบนี้
=XLOOKUP("TNJ0003", A2:A4, B2:B4)
ผลลัพธ์ที่ได้ : นายสมหมาย ปลายทาง
พอลองเขียนสูตรเพื่อค้นหาจริง ๆ เราก็จะเริ่มความแตกต่างระหว่าง XLOOKUP กับ VLOOKUP
ระบุช่วงข้อมูลที่ใช้ค้นหาเป็นแค่ช่วงคอลัมน์เดียว ไม่ต้องเลือกทั้งตาราง
ระบุช่วงข้อมูลที่ต้องการผลลัพธ์เป็นช่วงคอลัมน์เดียว แทนการระบุเลขลำดับ
ไม่ต้องใส่โหมดการค้นหา (แต่ยังสามารถใส่ได้)
แต่นี่ก็ยังไม่ใช่ทั้งหมดที่ทำให้เราหันมาใช้งาน XLOOKUP แทน VLOOKUP
จุดที่ทำให้ XLOOKUP เหนือกว่า VLOOKUP
1. ค้นหาแบบย้อนกลับได้
สมมติเราเปลี่ยนโจทย์เป็น "อยากค้นหารหัสพนักงานของนายสมหมาย ปลายทาง" ถ้าเป็น VLOOKUP เราจะไม่สามารถค้นหาได้ แต่ถ้าเป็น XLOOKUP เราสามารถค้นหาได้ด้วยการเขียนสูตรแบบนี้
=XLOOKUP("นายสมหมาย ปลายทาง", B2:B4, A2:A4)
ผลลัพธ์ที่ได้ : TNJ0003
2. สูตรไม่พังเวลา เพิ่ม/ลด คอลัมน์
สมมติว่าเรามีการเพิ่มคอลัมน์ให้กลายเป็นแบบนี้
A | B | C |
รหัสพนักงาน | แผนกที่สังกัด | ชื่อพนักงาน |
---|---|---|
TNJ0001 | IT Support | นายสมชาย สายเสมอ |
TNJ0002 | HR | นางสมศรี มีสมร |
TNJ0003 | Business | นายสมหมาย ปลายทาง |
และสมมติว่าเราเคยเขียนสูตร VLOOKUP ไว้แบบนี้
=VLOOKUP("TNJ0003", A2:B4, 2, FALSE)
ผลลัพธ์ที่ได้ : Business
จะสังเกตว่าตามปกติผลลัพธ์ที่เราควรจะได้คือ "ชื่อพนักงาน" แต่หลังเราแทรกคอลัมน์เข้าไป ผลลัพธ์ที่ได้จะกลายเป็น "แผนกที่สังกัด" แทน ซึ่งแปลว่าสูตรจะไม่ Error แต่จะได้คำตอบที่ผิด และถ้าเราไม่ได้กลับมาตรวจสอบดูให้ดีก็จะไม่รู้เลยว่าการทำงานนั้นผิดพลาดไปแล้ว
แต่ถ้าเราเขียนสูตรด้วย XLOOKUP ไว้แบบนี้
=XLOOKUP("TNJ0003", A2:A4, B2:B4)
สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากเราทำการแทรกคอลัมน์เข้าไปนั่นก็คือ สูตรจะถูกแก้ไขให้แบบอัตโนมัติ กลายเป็นแบบนี้
=XLOOKUP("TNJ0003", A2:A4, C2:C4)
ทำให้สูตรการค้นหายังคงทำงานได้ถูกต้องและได้ผลลัพธ์เป็น "ชื่อพนักงาน" ตามเดิม
3. สามารถตั้งค่าข้อความกรณีที่ไม่เจอข้อมูลได้
สมมติว่าถ้าเราอยากตั้งค่าข้อความเมื่อค้นหาข้อมูลไม่เจอว่า "ไม่พบข้อมูล" เราสามารถเพิ่มเข้าไปใน XLOOKUP ได้แบบนี้
=XLOOKUP("TNJ0004", A2:A4, C2:C4, "ไม่พบข้อมูล")
ผลลัพธ์ที่ได้ : ไม่พบข้อมูล
4. เลือกลำดับการค้นหาได้ (เอาค่าแรกสุด/ค่าหลังสุด)
กรณีที่บางตารางมีการบันทึกข้อมูลบางอย่างซ้ำ ยกตัวอย่างเช่นตารางการบันทึกเวลาเข้า-ออกของพนักงานแบบนี้
A | B | C | D |
วันที่ | รหัสพนักงาน | เวลาเข้างาน | เวลาออกงาน |
---|---|---|---|
01-08-2025 | TNJ0001 | 08:57 | 18:02 |
01-08-2025 | TNJ0003 | 08:59 | 18:23 |
02-08-2025 | TNJ0003 | 08:50 | 18:00 |
02-08-2025 | TNJ0001 | 09:03 | 18:12 |
สมมติว่าถ้าเราอยากค้นหา "เวลาเข้างานล่าสุดของพนักงานรหัส TNJ0001"
ถ้าเป็น VLOOKUP จะไม่สามารถค้นหาได้ เพราะต้องดึงตัวแรกสุดเสมอ
แต่ถ้าเป็น XLOOKUP เราสามารถกำหนดได้แบบนี้
=XLOOKUP("TNJ0004", A2:A4, C2:C4, "ไม่พบข้อมูล", 0, -1)
ผลลัพธ์ที่ได้ : 09:03
โดยเลข 0 หมายถึงให้เอาตัวที่ตรงตามที่ค้นหาเป๊ะ ๆ ส่วนเลข -1 หมายถึงให้ค้นหาจาก หลังมาหน้า(last-to-first) นั่นเอง ซึ่งถ้าเราจะไม่เขียนเลข 0 เพราะมันเป็น Default อยู่แล้วก็สามารถเขียนสูตรแบบนี้แทนได้
=XLOOKUP("TNJ0004", A2:A4, C2:C4, "ไม่พบข้อมูล",, -1)
คำถามพิเศษ: แล้วถ้ามีค่าซ้ำมากกว่า 2 ตัว แล้วอยากได้ค่าตรงกลางล่ะ XLOOKUP สามารถค้นหาได้มั้ย?
คำตอบคือ ไม่ได้นะคร้าบ!! //เสียงคุณปัญญาชิงร้อยชิงล้าน
เพราะ XLOOKUP สามารถค้นหาได้แค่ตัวแรกหรือตัวสุดท้ายเท่านั้น แต่ถ้าจะเป็นกรณีหาค่าตรงกลางจะต้องใช้งานฟังก์ชันหรือสูตรอื่น ๆ แทน เช่น FILTER + INDEX
และทั้งหมดนี้ก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรเลิกใช้งาน VLOOKUP แล้วหันมาใช้งาน XLOOKUP แทนนั่นเอง เพราะทาง Microsoft เองก็ตั้งใจเพิ่มฟังก์ชันนี้มาเพื่อให้สามารถใช้งานได้ยืดหยุ่นมากขึ้น ถึงขนาดเขียนเอาไว้ในคำอธิบายของฟังก์ชัน VLOOKUP เลยว่า "ลองใช้ XLOOKUP ดูมั้ย มันเป็นเวอร์ชันปรับปรุงมาจาก VLOOKUP เลยนะ…"
การใช้งาน Excel ให้เก่ง ไม่ใช่แค่จำสูตรให้เยอะ แต่ต้องเข้าใจว่ากรณีแบบไหน ควรใช้สูตรอะไร
และถ้าใครอยากเก่ง Excel แบบเจาะลึกตั้งแต่สูตรพื้นฐานไปจนถึงทริคขั้นสูง?
Tech Ninja ก็มีหลักสูตรอัปสกิล Excel ตั้งแต่ Basic พื้นฐานไปจนถึง Advanced ขั้นสูงเลยน้า ✨
สนใจติดต่อได้ที่ Facebook: Tech Ninja
หรือโทร 02-096-2899 (ต่อ 0) ได้เลย
บทความที่เกี่ยวข้อง
สงวนลิขสิทธิ์ © 2565 - ข้อมูลและเนื้อหาทั้งหมด - บริษัท บอร์นทูเดฟ จำกัด