AI

เขียน Prompt ให้ปัง! เทคนิคใช้ AI ช่วยงานสาย Marketing ให้ได้ผลลัพธ์ตรงใจ

เขียน Prompt ให้ปัง! เทคนิคใช้ AI ช่วยงานสาย Marketing ให้ได้ผลลัพธ์ตรงใจ

Tanawat Kusungnoen

Head of Product

27 MAR 2025

นักการตลาดไม่จำเป็นต้องเก่งโค้ดหรือต้องเป็นสายเทคถึงจะใช้งาน AI ได้ แค่รู้วิธีเขียน Prompt ให้ตรงจุด ก็สามารถเปลี่ยน AI ให้กลายเป็น “ผู้ช่วยคู่ใจ” ที่ช่วยให้เราทำงานได้เร็วขึ้น คิดคอนเทนต์ได้ไวขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่าเดิมหลายเท่า

บทความนี้นินจาจะพาไปรู้จักวิธีใช้ AI ให้เวิร์กสำหรับสายการตลาด พร้อมตัวอย่าง Prompt ใช้ได้จริง!

AI สำคัญกับงานด้าน Marketing ยังไง ?

Marketing ในยุคนี้คือการแข่งขันกันในเรื่องของ “ข้อมูล” และ “ความเร็ว” ไม่ใช่แค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ต้องมาคู่กัน เพราะถ้าเร็วแต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่มีความหมาย หรือถ้าถูกต้องแต่ช้าก็อาจไม่ทันคู่แข่งของเรา

ซึ่ง AI นั้นสามารถเข้ามาช่วยทำให้ทั้ง 2 เรื่องนี้ไปด้วยกันได้ ด้วยความสามารถในการจัดการกับข้อมูลจำนวนมาก ช่วยวิเคราะห์ วางแผน หรือแม้แต่เขียนข้อความแทนเราได้เลย ทำให้เราประหยัดเวลาในการทำงานลงไปได้เยอะกว่าเดิม

แล้ว AI เข้ามาช่วยงาน Marketing ได้ยังไงบ้าง ?

  1. Content Creation: ให้ AI ช่วยเขียนบทความ เขียนแคปชัน วิดีโอสคริปต์ต่าง ๆ ลดระยะเวลาในการสร้างสรรค์เนื้อหาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มความสม่ำเสมอในการผลิตและเผยแพร่คอนเทนต์เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขายให้กับแบรนด์

  2. Customer Insight: วิเคราะห์ข้อมูลการขาย วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เข้าใจพฤติกรรม เพื่อวางแผนกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  3. Email Marketing: เขียนอีเมลอัตโนมัติ ปรับตามพฤติกรรมผู้รับ นำเสนอโปรโมชันที่น่าสนใจและดึงดูด เพิ่มโอกาสสำเร็จในการขายสินค้าให้มากขึ้นกว่าเดิม

  4. Chatbot & Automation: ตอบแชทลูกค้าอัตโนมัติ หมดปัญหาลูกคอยนาน สร้างความประทับใจ ปิดการขายได้เร็วขึ้นแบบไม่ต้องเพิ่มคน

นักการตลาดไม่จำเป็นต้องเก่งโค้ดหรือต้องเป็นสายเทคถึงจะใช้งาน AI ได้ แค่รู้วิธีเขียน Prompt ให้ตรงจุด ก็สามารถเปลี่ยน AI ให้กลายเป็น “ผู้ช่วยคู่ใจ” ที่ช่วยให้เราทำงานได้เร็วขึ้น คิดคอนเทนต์ได้ไวขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่าเดิมหลายเท่า

บทความนี้นินจาจะพาไปรู้จักวิธีใช้ AI ให้เวิร์กสำหรับสายการตลาด พร้อมตัวอย่าง Prompt ใช้ได้จริง!

AI สำคัญกับงานด้าน Marketing ยังไง ?

Marketing ในยุคนี้คือการแข่งขันกันในเรื่องของ “ข้อมูล” และ “ความเร็ว” ไม่ใช่แค่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ต้องมาคู่กัน เพราะถ้าเร็วแต่ข้อมูลไม่ถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่มีความหมาย หรือถ้าถูกต้องแต่ช้าก็อาจไม่ทันคู่แข่งของเรา

ซึ่ง AI นั้นสามารถเข้ามาช่วยทำให้ทั้ง 2 เรื่องนี้ไปด้วยกันได้ ด้วยความสามารถในการจัดการกับข้อมูลจำนวนมาก ช่วยวิเคราะห์ วางแผน หรือแม้แต่เขียนข้อความแทนเราได้เลย ทำให้เราประหยัดเวลาในการทำงานลงไปได้เยอะกว่าเดิม

แล้ว AI เข้ามาช่วยงาน Marketing ได้ยังไงบ้าง ?

  1. Content Creation: ให้ AI ช่วยเขียนบทความ เขียนแคปชัน วิดีโอสคริปต์ต่าง ๆ ลดระยะเวลาในการสร้างสรรค์เนื้อหาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เพิ่มความสม่ำเสมอในการผลิตและเผยแพร่คอนเทนต์เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นยอดขายให้กับแบรนด์

  2. Customer Insight: วิเคราะห์ข้อมูลการขาย วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เข้าใจพฤติกรรม เพื่อวางแผนกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

  3. Email Marketing: เขียนอีเมลอัตโนมัติ ปรับตามพฤติกรรมผู้รับ นำเสนอโปรโมชันที่น่าสนใจและดึงดูด เพิ่มโอกาสสำเร็จในการขายสินค้าให้มากขึ้นกว่าเดิม

  4. Chatbot & Automation: ตอบแชทลูกค้าอัตโนมัติ หมดปัญหาลูกคอยนาน สร้างความประทับใจ ปิดการขายได้เร็วขึ้นแบบไม่ต้องเพิ่มคน

รู้ครบทุกเทคนิคการใช้ Generative AI เขียน Prompt ยังไงให้มีประสิทธิภาพ งานเสร็จเร็วขึ้น 10 เท่า!

ก้าวสู่ยุค AI เปลี่ยน Process การทำงานเดิม ๆ เพิ่มประสิทธิภาพด้วย Generative AI ทำความรู้จักกับความสามารถของ AI พร้อมแนวทางการนำ AI เข้ามาช่วยพัฒนากระบวนการทำงานในองค์กรให้ดีขึ้น

ก้าวสู่ยุค AI เปลี่ยน Process การทำงานเดิม ๆ เพิ่มประสิทธิภาพด้วย Generative AI ทำความรู้จักกับความสามารถของ AI พร้อมแนวทางการนำ AI เข้ามาช่วยพัฒนากระบวนการทำงานในองค์กรให้ดีขึ้น

เขียน Prompt ให้ดี ช่วยให้งาน Marketing ปังขึ้น

การใช้งาน AI เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้ Task ต่าง ๆ ของเราเสร็จเร็วขึ้น ลดระยะเวลาในการทำงาน เพิ่ม Productivity ให้สูงขึ้น แต่การจะใช้งาน AI ให้มีประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับ Prompt ที่เราใส่เข้าไป "ถ้า Prompt ดี งานก็ดี"

เหมือนเราสั่งพิซซ่ากับพนักงาน ถ้าเราบอกแค่ว่าเอาพิซซ่า 1 ถาด พนักงานก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำขนาดไหน หน้าอะไร ขอบเป็นยังไง? ผลลัพธ์ที่ได้ก็มีโอกาสผิดพลาดหรือไม่ตรงตามที่เราต้องการ แต่ถ้าเราบอกอย่างชัดเจนว่า เอาพิซซ่าหน้าฮาวาเอี้ยน แป้งหนานุ่ม ถาดใหญ่ 1 ถาด ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะมีความเฉพาะเจาะจงและตรงกับความต้องการมากขึ้นนั่นเอง

ตัวอย่าง Prompt ที่ 1: เขียนแคปชัน Facebook

“ช่วยเขียนแคปชันโพสต์โปรโมท[สินค้า/แคมเปญ] สำหรับ[กลุ่มเป้าหมาย] ให้ดูน่าเชื่อถือ ด้วยภาษากึ่งทางการ กระชับ เข้าใจง่ายและมี Call-to-Action ปิดการขายในตอนท้าย”

ตัวอย่าง Prompt ที่ 2: วางแผน Content Calendar

“ช่วยคิดหัวข้อคอนเทนต์รายเดือน[จำนวนกี่คอนเทนต์ต่อวัน] ในรูปแบบ[รูปแบบคอนเทนต์] สำหรับเพจ[ข้อมูลเพจ] ที่เน้นกลุ่ม[กลุ่มเป้าหมาย] โดยมี[เป้าหมาย]”

ตัวอย่าง Prompt ที่ 3: วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย

“สร้างโปรไฟล์ Customer Persona ที่ละเอียด สำหรับสินค้า[รายละเอียดสินค้า] เพื่อ[กลุ่มลูกค้า] ของ [ธุรกิจ] โดยรวมข้อมูลต่างๆ เช่น [ข้อมูลที่อยากรู้]”

ตัวอย่าง Prompt ที่ 4: เขียนอีเมลโปรโมชัน

“ช่วยเขียนอีเมลโปรโมชันสำหรับแคมเปญ[รายละเอียดแคมเปญ] สำหรับขาย[สินค้า] ในโทนภาษาที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อ และมี Call-to-Action ที่ชัดเจน”

ใช้ AI คู่กับเครื่องมืออื่น ๆ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

การใช้ AI จะมีพลังมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าเรารู้จักการ “เชื่อมโยง” กับเครื่องมืออื่นใน Workflow เช่น:

  • Canva: ใช้ AI เขียนข้อความ แล้วเอาไปจัดวางบนดีไซน์สวย ๆ

  • Google Sheets / Excel: ให้ AI ช่วยคิดสูตร สรุปผล หรือล้างข้อมูล

  • Trello / Notion: วางแผนไอเดียคอนเทนต์ด้วย AI แล้วโยนเข้า Task Manager ได้ทันที

  • CapCut / Premiere Pro: ใช้ AI ช่วยเขียนสคริปต์ หรือเขียนคำบรรยายอัตโนมัติสำหรับวิดีโอ

  • Zapier / Make: เชื่อมให้ AI ทำงานต่ออัตโนมัติ เช่น พอมีแชทใหม่ → สรุป → ส่งเข้าอีเมล

นอกเหนือจากเครื่องมือที่บอกไปแล้ว AI ก็ยังสามารถเชื่อมโยงการทำงานได้อีกหลากหลายตัวเลย ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้งานให้เหมาะสมกับงานของเรา ซึ่งจะเห็นว่าการใช้งาน AI นั้นไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด แค่เริ่มต้นด้วย “Prompt ที่ดี” เราก็สามารถเปลี่ยนมันให้กลายเป็นนักเขียน นักวางแผน หรือที่ปรึกษาทางการตลาดได้ในคลิกเดียว

และถ้าองค์กรไหนต้องการปูพื้นฐานการใช้งาน Generative AI ร่วมกับงานและทีมของคุณ Tech Ninja ขอแนะนำหลักสูตรอบรม In-house ที่จะทำให้ทีมของคุณรู้เรื่อง AI แบบครบเครื่อง รู้ลึกทุกเทคนิคการใช้งาน AI จากมือใหม่สู่มืออาชีพ ดูรายละเอียดคลิกเลย Generative AI for Business

เขียน Prompt ให้ดี ช่วยให้งาน Marketing ปังขึ้น

การใช้งาน AI เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้ Task ต่าง ๆ ของเราเสร็จเร็วขึ้น ลดระยะเวลาในการทำงาน เพิ่ม Productivity ให้สูงขึ้น แต่การจะใช้งาน AI ให้มีประสิทธิภาพนั้นขึ้นอยู่กับ Prompt ที่เราใส่เข้าไป "ถ้า Prompt ดี งานก็ดี"

เหมือนเราสั่งพิซซ่ากับพนักงาน ถ้าเราบอกแค่ว่าเอาพิซซ่า 1 ถาด พนักงานก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำขนาดไหน หน้าอะไร ขอบเป็นยังไง? ผลลัพธ์ที่ได้ก็มีโอกาสผิดพลาดหรือไม่ตรงตามที่เราต้องการ แต่ถ้าเราบอกอย่างชัดเจนว่า เอาพิซซ่าหน้าฮาวาเอี้ยน แป้งหนานุ่ม ถาดใหญ่ 1 ถาด ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะมีความเฉพาะเจาะจงและตรงกับความต้องการมากขึ้นนั่นเอง

ตัวอย่าง Prompt ที่ 1: เขียนแคปชัน Facebook

“ช่วยเขียนแคปชันโพสต์โปรโมท[สินค้า/แคมเปญ] สำหรับ[กลุ่มเป้าหมาย] ให้ดูน่าเชื่อถือ ด้วยภาษากึ่งทางการ กระชับ เข้าใจง่ายและมี Call-to-Action ปิดการขายในตอนท้าย”

ตัวอย่าง Prompt ที่ 2: วางแผน Content Calendar

“ช่วยคิดหัวข้อคอนเทนต์รายเดือน[จำนวนกี่คอนเทนต์ต่อวัน] ในรูปแบบ[รูปแบบคอนเทนต์] สำหรับเพจ[ข้อมูลเพจ] ที่เน้นกลุ่ม[กลุ่มเป้าหมาย] โดยมี[เป้าหมาย]”

ตัวอย่าง Prompt ที่ 3: วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย

“สร้างโปรไฟล์ Customer Persona ที่ละเอียด สำหรับสินค้า[รายละเอียดสินค้า] เพื่อ[กลุ่มลูกค้า] ของ [ธุรกิจ] โดยรวมข้อมูลต่างๆ เช่น [ข้อมูลที่อยากรู้]”

ตัวอย่าง Prompt ที่ 4: เขียนอีเมลโปรโมชัน

“ช่วยเขียนอีเมลโปรโมชันสำหรับแคมเปญ[รายละเอียดแคมเปญ] สำหรับขาย[สินค้า] ในโทนภาษาที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อ และมี Call-to-Action ที่ชัดเจน”

ใช้ AI คู่กับเครื่องมืออื่น ๆ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

การใช้ AI จะมีพลังมากขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้นถ้าเรารู้จักการ “เชื่อมโยง” กับเครื่องมืออื่นใน Workflow เช่น:

  • Canva: ใช้ AI เขียนข้อความ แล้วเอาไปจัดวางบนดีไซน์สวย ๆ

  • Google Sheets / Excel: ให้ AI ช่วยคิดสูตร สรุปผล หรือล้างข้อมูล

  • Trello / Notion: วางแผนไอเดียคอนเทนต์ด้วย AI แล้วโยนเข้า Task Manager ได้ทันที

  • CapCut / Premiere Pro: ใช้ AI ช่วยเขียนสคริปต์ หรือเขียนคำบรรยายอัตโนมัติสำหรับวิดีโอ

  • Zapier / Make: เชื่อมให้ AI ทำงานต่ออัตโนมัติ เช่น พอมีแชทใหม่ → สรุป → ส่งเข้าอีเมล

นอกเหนือจากเครื่องมือที่บอกไปแล้ว AI ก็ยังสามารถเชื่อมโยงการทำงานได้อีกหลากหลายตัวเลย ขึ้นอยู่กับการประยุกต์ใช้งานให้เหมาะสมกับงานของเรา ซึ่งจะเห็นว่าการใช้งาน AI นั้นไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด แค่เริ่มต้นด้วย “Prompt ที่ดี” เราก็สามารถเปลี่ยนมันให้กลายเป็นนักเขียน นักวางแผน หรือที่ปรึกษาทางการตลาดได้ในคลิกเดียว

และถ้าองค์กรไหนต้องการปูพื้นฐานการใช้งาน Generative AI ร่วมกับงานและทีมของคุณ Tech Ninja ขอแนะนำหลักสูตรอบรม In-house ที่จะทำให้ทีมของคุณรู้เรื่อง AI แบบครบเครื่อง รู้ลึกทุกเทคนิคการใช้งาน AI จากมือใหม่สู่มืออาชีพ ดูรายละเอียดคลิกเลย Generative AI for Business

บทความที่เกี่ยวข้อง

จันทร์ - ศุกร์ 09.30 - 18.00 น.

082-348-3222 (คุณมี่)

techninja@borntodev.com

สงวนลิขสิทธิ์ © 2565 - ข้อมูลและเนื้อหาทั้งหมด - บริษัท บอร์นทูเดฟ จำกัด